Follow prapat1909 on Twitter

วันอังคารที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

แนวโน้มสถานการณ์โลก ปี 2012 (ตอนที่ 1 )

แนวโน้มสถานการณ์โลก ปี 2012 (ตอนที่ 1 )

คอลัมน์โลกปริทรรศน์
18 ธันวาคม 2554

เมื่อเร็วๆนี้ Council on Foreign Relations ซึ่งเป็น think tank ที่มีชื่อเสียงของสหรัฐฯ ได้เผยแพร่เอกสาร ชื่อ “Preventive Priorities Survey : 2012” คาดการณ์สถานการณ์โลกในปี 2012 โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับภัยคุกคามที่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของสหรัฐฯ คอลัมน์โลกปริทรรศน์ในวันนี้ จะสรุป วิเคราะห์เอกสารดังกล่าว ดังนี้

เอกสารดังกล่าว ถูกจัดทำขึ้นเพื่อมองถึงแนวโน้มสถานการณ์โลกในปี 2012 โดย Center for Preventive Action ของ Council on Foreign Relations ได้จัดทำการสำรวจกลุ่มข้าราชการ นักวิชาการ และผู้เชี่ยวชาญ เพื่อจัดทำรายการเกี่ยวกับภัยคุกคามในปี 2012 โดยรายการดังกล่าว ได้แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ซึ่งจะแตกต่างกันออกไปตามผลประโยชน์แห่งชาติของสหรัฐฯ และแตกต่างกันไปตามระดับของความเสี่ยง และลักษณะของความขัดแย้ง

กลุ่มที่ 1

รายการของสถานการณ์ในกลุ่มที่ 1 จะเป็นสถานการณ์ที่คุกคามต่อผลประโยชน์ของสหรัฐฯโดยตรง ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่า อาจนำไปสู่การที่สหรัฐฯ จะต้องใช้กำลังทางทหารเพื่อจัดการกับภัยคุกคามดังกล่าว ทั้งนี้ เพราะพันธกรณีตามสนธิสัญญาทางทหาร โดยรวมถึงภัยคุกคามต่อทรัพยากรที่มีความสำคัญต่อยุทธศาสตร์ของสหรัฐฯ สถานการณ์สำคัญๆในกลุ่มนี้ แบ่งออกเป็นเรื่องต่างๆได้ ดังนี้

• การก่อการร้าย

ในปี 2011 แม้ว่า สหรัฐฯจะประสบความสำเร็จในการสังหาร Osama Bin Laden ผู้นำขององค์กร al-Qaeda แต่ภัยจากการก่อการร้ายยังไม่หมดไป แต่กลับมีแนวโน้มลุกลามบานปลายออกไปเรื่อยๆ โดยขณะนี้ กลุ่มก่อการร้ายร่วมอุดมการณ์กับ al-Qaeda ได้ขยายตัวไปทั่วภูมิภาคตะวันออกกลาง สถานการณ์โลกในปี 2012 ที่จะเป็นภัยคุกคามอย่างยิ่งต่อสหรัฐฯ คือ การที่สหรัฐฯหรือพันธมิตรของสหรัฐฯ จะถูกก่อวินาศกรรมจากขบวนการก่อการร้าย และเกิดความสูญเสียครั้งใหญ่

นอกจากนี้ ที่เกี่ยวข้องกัน คือ แนวโน้มที่จะมีการโจมตีสหรัฐฯทางอินเตอร์เนต เป็นที่รู้กันดีว่า ขณะนี้ สหรัฐฯ ต้องพึ่งพาเครือข่ายอินเตอร์เนตเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเรื่องโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ ได้แก่ ด้านโทรคมนาคม พลังงาน ทรัพยากร รวมทั้งระบบเศรษฐกิจ การธนาคาร การเงิน และการขนส่ง ซึ่งต้องอาศัยเครือข่ายอินเตอร์เนตแทบทั้งสิ้น ในอนาคต มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆว่า เครือข่ายเหล่านี้จะถูกโจมตี โดยเฉพาะจากกลุ่มก่อการร้ายและจากประเทศที่เป็นศัตรูกับสหรัฐฯ

• ตะวันออกกลาง

ภูมิภาคที่ยังคงน่ากังวลที่สุดสำหรับสหรัฐฯ คือ ตะวันออกกลาง รวมถึงเอเชียใต้ด้วย ในปี 2012 ตะวันออกกลางจะประสบกับสภาวะไร้เสถียรภาพทางการเมือง ซึ่งจะเป็นแนวโน้มต่อเนื่องจากปรากฎการณ์ Arab Spring ที่เกิดขึ้นในปีนี้ โดยในปีหน้า ประเทศที่สหรัฐฯจับตามอง คือ ซาอุดิอาระเบีย ซึ่งอาจเกิดความวุ่นวายทางการเมือง และอาจจะกระทบต่อแหล่งทรัพยากรน้ำมันของโลกและของสหรัฐฯเป็นอย่างมาก

อีกประเทศในภูมิภาค ที่น่าจะเป็นประเด็นร้อนในปีหน้า คือ อิหร่าน ในปีนี้ แม้ว่า สหรัฐฯจะพยายามปรับเปลี่ยนนโยบายต่ออิหร่าน ในสมัยรัฐบาล Obama แต่สถานการณ์กลับทรุดหนักลงเรื่อยๆ ล่าสุด IAEA ได้ออกมาประกาศว่า มีหลักฐานชี้ให้เห็นว่า อิหร่านกำลังพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ ความตึงเครียดก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆโดยเฉพาะพวกสายเหยี่ยวในสหรัฐฯเริ่มมองว่า อิหร่านกำลังจะเป็นภัยคุกคามสำคัญ หากมีอาวุธนิวเคลียร์ ดังนั้น จึงจะต้องมีการโจมตีโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่าน เพื่อเป็นการตัดไฟแต่ต้นลม อีกประเด็นที่มีความเกี่ยวโยงกัน คือ อิสราเอล ที่มีความหวั่นวิตกต่อภัยคุกคามจากอิหร่านเป็นอย่างมาก อาจจะตัดสินใจโจมตีโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่านด้วย

อีกประเทศในภูมิภาค ที่สหรัฐฯกำลังเป็นห่วงมากขึ้นเรื่อยๆ คือ ความไม่สงบในปากีสถาน ซึ่งอาจจะเป็นผลมาจากวิกฤตการเมืองในประเทศ ระหว่างฝ่ายทหารกับฝ่ายพลเรือน หรืออาจเกี่ยวข้องกับการโจมตีจากขบวนการก่อการร้าย นอกจากนี้ ในปี 2012 สิ่งที่ต้องจับตามอง คือ ความเป็นไปได้ที่สหรัฐฯกับปากีสถาน อาจขัดแย้งกันทางด้านการทหาร ซึ่งอาจเป็นผลมาจากการโจมตีจากผู้ก่อการร้าย หรือจากการที่สหรัฐฯเข้าแทรกแซงและปฏิบัติการต่อต้านการก่อการร้ายในปากีสถาน โดยไม่ได้รับการยินยอมจากปากีสถาน และปากีสถานอาจถือว่า เป็นการล่วงล้ำอำนาจอธิปไตยของปากีสถาน

• เอเชีย

สำหรับในเอเชีย สถานการณ์ที่น่าจะเป็นประเด็นร้อน หนีไม่พ้นเรื่องเกาหลีเหนือ มีแนวโน้มที่จะเกิดวิกฤตการณ์ในเกาหลีเหนือ ซึ่งอาจมีสาเหตุมาจากความขัดแย้งทางทหาร หรือความวุ่นวายทางการเมือง รวมถึงเรื่องอาวุธนิวเคลียร์และขีปนาวุธ ในปีนี้ เช่นเดียวกับในกรณีของอิหร่าน คือ ในตอนแรก สหรัฐฯได้พยายามปรับเปลี่ยนยุทธศาสตร์ต่อเกาหลีเหนือ โดยหันมาเน้นไม้อ่อนมากขึ้น แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ เกาหลีเหนือยังคงเดินหน้าพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ต่อไป มิหนำซ้ำ กลับมีพฤติกรรมที่ก้าวร้าวต่อเกาหลีใต้มากขึ้น

สำหรับอีกประเทศที่อาจเป็นจุดความขัดแย้งใหญ่ในภูมิภาค คือ จีน ในปี 2012 ความขัดแย้งระหว่างจีนกับสหรัฐฯอาจเกิดขึ้น ในปีนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯกับจีนเสื่อมทรามลงเรื่อยๆ โดยมีความขัดแย้งกันหลายเรื่อง ตั้งแต่เรื่องคาบสมุทรเกาหลี ทะเลเหลือง ไต้หวัน และความขัดแย้งในทะเลจีนใต้ ล่าสุด การที่สหรัฐฯประกาศจะตั้งฐานทัพในออสเตรเลีย ก็ทำให้จีนไม่พอใจเป็นอย่างมาก โดยจีนมองว่า สหรัฐฯกำลังดำเนินยุทธศาสตร์ปิดล้อมจีนทางทหาร

• ยุโรป

อีกเรื่องที่จัดเป็นกลุ่มที่ 1 ที่จะเป็นเรื่องที่คุกคามต่อผลประโยชน์ของสหรัฐฯโดยตรง คือ วิกฤต Eurozone ในปีนี้ วิกฤตหนี้ของประเทศต่างๆ ที่ใช้เงินยูโร ทรุดหนักลงเรื่อยๆ ตั้งแต่กรีซ โปรตุเกส ไอร์แลนด์ และขณะนี้ ก็กำลังลุกลามเข้าสู่อิตาลีและสเปน ในปี 2012 มีความเป็นไปได้ว่า วิกฤต Eurozone อาจลุกลามบานปลาย จนถึงขั้นเกิดการแตกสลายของ Eurozone ซึ่งจะส่งผลกระทบอย่างมากต่อเศรษฐกิจโลก และต่อเศรษฐกิจของสหรัฐฯ

(โปรดติดตามอ่านต่อตอนจบ ในคอลัมน์โลกปริทรรศน์สัปดาห์หน้า)

ไม่มีความคิดเห็น: