Follow prapat1909 on Twitter

วันอาทิตย์ที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2555

ทางเลือกการแก้ปัญหานิวเคลียร์อิหร่าน

ทางเลือกการแก้ปัญหานิวเคลียร์อิหร่าน คอลัมน์โลกปริทรรศน์ 12 กุมภาพันธ์ 2555 สถานการณ์นิวเคลียร์อิหร่าน ตะวันตกได้กล่าวหาอิหร่านมาตลอดว่า แอบพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ แต่อิหร่านก็ปฏิเสธมาโดยตลอด อย่างไรก็ตาม ปีที่แล้ว IAEA ได้ออกมาประกาศว่า มีหลักฐานว่า อิหร่านกำลังแอบพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ ทำให้สถานการณ์ระหว่างอิหร่านกับตะวันตก โดยเฉพาะกับสหรัฐฯตึงเครียดขึ้นมาก และเมื่อช่วงเดือนมกราคมนี้ IAEA ยืนยันว่า อิหร่านเดินหน้าเสริมสร้างสมรรถนะภาพแร่ยูเรเนียมในระดับ 20% ในโรงงานนิวเคลียร์ใกล้เมือง Qom และ IAEA ยังได้รายงานว่า อิหร่านกำลังทำการค้นคว้าวิจัยเพื่อพัฒนาหัวรบนิวเคลียร์ นั่นคือสิ่งที่เรารู้ แต่ยังมีที่ไม่รู้และไม่แน่ชัดอีกหลายเรื่อง อาทิ เราไม่รู้ว่าอิหร่านจะสามารถพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ได้สำเร็จเมื่อไหร่ มีการประเมินตั้งแต่จะใช้เวลาเพียงประมาณ 2-6 เดือน ไปจนถึงใช้เวลาอีกหลายปี และเราก็ไม่รู้และไม่แน่ใจว่า ผู้นำอิหร่านได้ตัดสินใจที่จะพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์อย่างแน่นอนแล้วหรือยัง อย่างไรก็ตาม วิกฤตนิวเคลียร์อิหร่านในขณะนี้ ทำให้ตะวันตกและประชาคมโลก กำลังเผชิญกับทางเลือกที่ยากลำบาก แต่ละทางเลือกก็มีข้อดี-ข้อเสีย และความเสี่ยง และการพิจารณาข้อดี-ข้อเสีย และความเสี่ยง ก็เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน ทางเลือกที่ 1: ยอมรับนิวเคลียร์อิหร่าน ทางเลือกนี้ จะยอมรับและปล่อยให้อิหร่านมีอาวุธนิวเคลียร์ โดยมีสมมติฐานว่า อิหร่านคงจะถูกป้องปรามในการใช้อาวุธเหมือนกับประเทศที่มีอาวุธนิวเคลียร์อื่นๆ และสหรัฐฯอาจแก้ปัญหาด้วยการสร้างระบบป้องกันการโจมตีจากขีปนาวุธเพิ่มเติม และขยายขอบเขตการให้หลักประกันความมั่นคงในระดับที่จะทำให้อิหร่านเข้าใจว่า การใช้อาวุธนิวเคลียร์ของอิหร่านจะต้องถูกตอบโต้จากสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม ข้อเสียของทางเลือกนี้ คือ อิหร่านที่มีอาวุธนิวเคลียร์จะมีนโยบายที่ก้าวร้าวมากขึ้น และอาจถ่ายโอนวัตถุดิบ เทคโนโลยี หรืออาวุธนิวเคลียร์ให้กับพันธมิตรของอิหร่าน หรือให้กับองค์กรก่อการร้ายที่ใกล้ชิดกับอิหร่าน อาทิ Hezbollah และ Hamas นอกจากนี้ การที่อิหร่านมีอาวุธนิวเคลียร์จะก่อให้เกิดการแพร่ขยายของอาวุธนิวเคลียร์ในภูมิภาค โดยเฉพาะซาอุดิอาระเบีย ตุรกี และอียิปต์ อาจจะพยายามมีอาวุธนิวเคลียร์เพื่อถ่วงดุลอิหร่าน ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น เมื่อหลายประเทศในตะวันออกกลางมีอาวุธนิวเคลียร์ โอกาสที่จะเกิดสงครามนิวเคลียร์จะมีมากขึ้น ทางเลือกที่ 2: การใช้กำลังโจมตีอิหร่าน ทางเลือกที่ตรงข้ามกับทางเลือกที่ 1 คือ การใช้กำลัง โดยเฉพาะการโจมตีทำลายโรงงานอาวุธนิวเคลียร์ของอิหร่าน ปฏิบัติการดังกล่าว น่าจะเป็นปฏิบัติการโดยอิสราเอลหรือสหรัฐฯ แต่แนวโน้มของการโจมตีโดยอิสราเอลมีค่อนข้างสูง โดยเมื่อเร็วๆนี้ รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล คือ Ehud Barak ได้ประกาศว่า เวลาที่จะหยุดยั้งการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ของอิหร่านเหลือน้อยเต็มที และต่อมา รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ คือ Leon Panetta ได้แสดงความวิตกกังวลว่า อิสราเอลอาจจะโจมตีอิหร่าน เช่นเดียวกับรองนายกรัฐมนตรีอังกฤษ คือ Nick Clegg ก็ได้แสดงความห่วงใยว่า อิสราเอลกำลังใกล้ที่จะตัดสินใจโจมตีอิหร่าน อย่างไรก็ตาม ผลเสียของทางเลือกนี้ คือ แม้ว่า การโจมตีโรงงานนิวเคลียร์อิหร่าน อาจจะชะลอการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ของอิหร่านไปได้ 2-3 ปี แต่ในที่สุด อิหร่านก็จะกลับมาสร้างโรงงานนิวเคลียร์ใหม่ และอาจจะอยู่ลึกลงไปใต้ดินมากขึ้น ซึ่งจะทำให้การโจมตีทำลายโรงงานนิวเคลียร์ในอนาคตยากลำบากมากขึ้น นอกจากนั้น อิหร่านอาจตอบโต้ด้วยการโจมตีเป้าหมายทางทหารในอิสราเอล ซาอุดิอาระเบีย อิรัก และอัฟกานิสถาน รวมทั้งเป้าหมายทางทหารของสหรัฐฯทั่วโลก Hezbollah ก็อาจจะโจมตีอิสราเอลด้วย ซึ่งหากเกิดสงครามขึ้น ราคาน้ำมันจะพุ่งสูงขึ้นอย่างมาก และอาจทำให้เศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะถดถอย นอกจากนี้ การโจมตีอิหร่านจะยิ่งทำให้ชาวอิหร่านสนับสนุนรัฐบาลมากขึ้น ซึ่งก็จะทำให้มีความยากลำบากมากขึ้นในการที่จะโค่นล้มรัฐบาลอิหร่าน ซึ่งทางเลือกของการเปลี่ยนระบอบ หรือ regime change นี้ ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง แต่ก็มีความยากลำบากมากที่จะประสบความสำเร็จ ทางเลือกที่ 3: การคว่ำบาตร ดังนั้น จะเห็นได้ว่า 2 ทางเลือกข้างต้น น่าจะมีผลเสียเป็นอย่างมาก ดังนั้น ขณะนี้ หลายฝ่ายจึงมุ่งไปที่ทางเลือกมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่ออิหร่าน โดยมีแนวโน้มที่จะเพิ่มมาตรการให้เข้มข้นมากขึ้น ทางเลือกนี้ตั้งอยู่บนสมมติฐานที่ว่า มาตรการคว่ำบาตรจะก่อให้เกิดความไม่พอใจในหมู่ประชาชนชาวอิหร่าน ซึ่งจะเป็นแรงกดดันให้ผู้นำอิหร่าน ซึ่งกลัวที่จะสูญเสียอำนาจ ต้องยอมประนีประนอมเจรจากับ UN หรือตะวันตก แนวโน้มในขณะนี้ ก็เป็นไปในทิศทางนี้ คือ หลายฝ่ายสนับสนุนมาตรการคว่ำบาตรที่เข้มข้น ซึ่งรวมถึงการคว่ำบาตรธนาคารกลางอิหร่าน ทำให้อิหร่านส่งออกน้ำมันได้อย่างยากลำบาก นอกจากนี้ ที่ควบคู่ไปกับมาตรการคว่ำบาตร คือ มาตรการป้องกันไม่ให้อิหร่านนำเข้าเทคโนโลยีที่มีความละเอียดอ่อน การโจมตีเครือข่ายคอมพิวเตอร์ของอิหร่านด้วยไวรัส ทำให้ประสิทธิภาพของการเพิ่มสมรรถนะของแร่ยูเรเนียมลดลง และการลอบสังหารนักวิทยาศาสตร์อิหร่านด้วย อย่างไรก็ตาม ข้อเสียของทางเลือกนี้ คือ มาตรการเหล่านี้ อาจจะเป็นเพียงการชะลอการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ของอิหร่านได้เท่านั้น แต่คงจะไม่สามารถยุติการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ของอิหร่านได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด กล่าวโดยสรุป ขณะนี้ ประชาคมโลกกำลังประสบกับปัญหาวิกฤตนิวเคลียร์อิหร่านที่ยังไม่มีทางออกที่ชัดเจนว่า วิธีการแก้ปัญหาวิธีใดที่จะนำไปสู่การยุติการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ของอิหร่านได้อย่างยั่งยืน

ไม่มีความคิดเห็น: