แนวโน้มสถานการณ์โลกปี 2013 (ตอนที่ 1)
ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ วันพฤหัสบดีที่ 10 มกราคม 2556
คอลัมน์กระบวนทัศน์ในวันนี้เป็นตอนต้อนรับปีใหม่
ผมจึงจะมาวิเคราะห์แนวโน้มสถานการณ์โลกในปีนี้ โดยตอนที่ 1
จะวิเคราะห์สถานการณ์ความมั่นคงโลก ส่วนตอนหน้าจะวิเคราะห์สถานการณ์เศรษฐกิจโลก
ความมั่นคงโลก
·
ตะวันออกกลาง
ปีนี้
ภูมิภาคที่จะต้องจับตามองมากที่สุดคือ ตะวันออกกลาง ซึ่งน่าจะเป็นภูมิภาคที่มีปัญหามากที่สุด
โดยเฉพาะในด้านความมั่นคง ความขัดแย้ง สงคราม และการก่อการร้าย
ประเทศที่ต้องจับตามองมากที่สุดคือ
อิหร่าน โดยเฉพาะวิกฤตนิวเคลียร์อิหร่าน ที่คงจะเป็นปัญหาต่อเนื่อง มาจากปีที่แล้ว
ตะวันตกกำลังวิตกกังวลมากขึ้นเรื่อยๆว่า อิหร่านกำลังแอบพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์
ทำให้สถานการณ์อิหร่านกับตะวันตกโดยเฉพาะกับสหรัฐฯและอิสราเอล ตึงเครียดขึ้นมาก จนอาจถึงขั้นสงคราม
แนวโน้มคือ อิสราเอลและสหรัฐฯ อาจจะตัดสินใจโจมตีอิหร่าน เพื่อป้องกันไม่ให้อิหร่านผลิตอาวุธนิวเคลียร์ได้สำเร็จ
โดย scenario
ที่น่าจะเป็นไปได้คือ
อิสราเอลร่วมกับสหรัฐฯ ใช้เครื่องบินหรือขีปนาวุธโจมตีโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่าน
อย่างไรก็ตาม ก็มีหลายฝ่ายออกมากล่าวเตือนถึงผลกระทบในทางลบหากเกิดสงคราม
โดยเฉพาะสงครามอาจลุกลามบานปลาย อิหร่านอาจตอบโต้ด้วยการปิดช่องแคบ Hormuz โจมตีอิสราเอลด้วยขีปนาวุธ และสนับสนุนการก่อการร้ายทั่วโลก
รวมทั้งอาจเกิดวิกฤตการณ์น้ำมันโลกครั้งใหม่
จุดอันตรายอีกจุดคือ
ซีเรีย ซึ่งเป็นวิกฤตที่ยืดเยื้อมาตั้งแต่ปีที่แล้ว กำลังกลายเป็นสงครามกลางเมือง ที่มีผู้คนเสียชีวิตไปแล้วกว่าหกหมื่นคน
ปีนี้มีแนวโน้มว่า สงครามกลางเมืองอาจรุนแรงมากขึ้น จนถึงขั้นที่อาจจะมีการแทรกแซงจากภายนอกโดยเฉพาะการแทรกแซงจากตะวันตก
เหมือนในกรณีของลิเบีย ที่ NATO เข้าแทรกแซง
แต่ในกรณีของซีเรียอาจไม่ง่าย เพราะ จีน รัสเซีย และอิหร่าน สนับสนุนรัฐบาล Assad อยู่
หลายฝ่ายมองว่า
มาตรการทางการทูตล้มเหลว จึงได้เรียกร้องให้มีการใช้มาตรการทางทหาร เพื่อโค่นล้มรัฐบาล
Assad
ขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่า ประชาคมโลกจะมีมาตรการอย่างไรในการจัดการกับปัญหานี้ ที่กำลังจะเลวร้ายลงเรื่อยๆ
และจุดที่จะทำให้เกิดวิกฤตหนักขึ้นคือ รัฐบาล Assad อาจตัดสินใจใช้อาวุธเคมีในการปราบปรามฝ่ายต่อต้าน
นอกจากนี้
มีอีกหลายประเทศในตะวันออกกลาง ที่มีแนวโน้มจะเกิดปัญหาความวุ่นวายในปี 2013 ดังนี้
-
ลิเบีย : อาจจะเกิดความวุ่นวายทางการเมืองมากขึ้น
โดยเฉพาะการเพิ่มบทบาทของกลุ่มก่อการร้ายหัวรุนแรง ที่ใช้ลิเบียเป็นฐานที่มั่นใหม่
-
เยเมน : สถานการณ์ความมั่นอาจจะทรุดหนักลง
โดยเฉพาะสถานการณ์ทางการเมือง และแนวโน้มการเพิ่มบทบาทของกลุ่มก่อการร้ายในเยเมน
-
เลบานอน : ความขัดแย้งในซีเรียอาจลุกลามบานปลายเข้าสู่เลบานอน
โดยเฉพาะความขัดแย้งทางศาสนาระหว่างกลุ่มคริสต์กับมุสลิม
-
อิรัก : ในช่วงสิบปีที่ผ่านมา
นับตั้งแต่สหรัฐฯบุกยึดครองอิรักในปี 2003 สถานการณ์ความวุ่นวายและความรุนแรง ก็มีมาโดยตลอด
และน่าจะยังคงมีอยู่ต่อไป โดยเฉพาะกลุ่มก่อการร้ายและกลุ่มแบ่งแยกดินแดนยังคงมีบทบาทอยู่
-
จอร์แดน : อาจจะเกิดการแพร่ขยายของกลุ่มต่อต้านรัฐบาล
ซึ่งเป็นแนวโน้มที่เกิดขึ้นในโลกอาหรับมาตั้งแต่ปีที่แล้ว ที่เราเรียกว่า Arab Spring
-
อียิปต์ : การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในอียิปต์
ยังคงไม่เรียบร้อย และอาจเกิดความวุ่นวายทางการเมือง ที่เป็นผลมาจาก การปฏิรูปทางการเมือง
และภาวะวิกฤตเศรษฐกิจที่ทรุดหนักลง
-
ซาอุดิอาระเบีย : อาจเกิดการไร้เสถียรภาพทางการเมือง
ที่เป็นผลมาจากกระแส Arab Spring
-
ตุรกี : ก็อาจเกิดความไม่สงบ โดยเฉพาะทางตะวันออกของประเทศ
ซึ่งเป็นเขตของชาวเคิร์ด ที่ได้ต่อสู้แบ่งแยกดินแดนมาอย่างยืดเยื้อ
·
การก่อการร้ายสากล
การก่อการร้ายสากล
จะยังคงเป็นปัญหาใหญ่ของโลกต่อไปในปีนี้ แม้ว่า
Osama Bin Laden ผู้นำ Al-Qaeda จะได้ถูกสังหารไปแล้ว
แต่ในปีนี้สถานการณ์การก่อการร้าย จะยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง และทำท่าว่า จะทรุดหนักลงเสียด้วยซ้ำ
โดยเหตุการณ์ Arab Spring กลับเป็นตัวช่วย ทำให้กลุ่มก่อการร้ายฉวยโอกาสจากความวุ่นวายทางการเมือง
และสุญญากาศแห่งอำนาจ ในการเพิ่มบทบาทของตน
การสูญเสีย Bin Laden ไป ไม่ได้ทำให้
Al-Qaeda อ่อนแอลงไปมากนัก ผู้นำคนใหม่คือ Ayman
al-Zawahiri ยังคงเดินหน้าปลุกระดมและเรียกร้องให้มีการก่อวินาศกรรมทั่วโลก
แต่ที่สำคัญไปกว่านั้นคือ
องค์กรสาขาของ Al-Qaeda และแนวร่วมของ
Al-Qaeda ที่มีอยู่ทั่วโลก โดยเฉพาะในตะวันออกกลาง แอฟริกาเหนือ
และเอเชียใต้
-
Lashkar e Tayyiba: หรือเรียกย่อว่า
LeT ซึ่งมีฐานอยู่ในปากีสถาน มีบทบาทในการก่อวินาศกรรมที่เมืองมุมไบ
ในปี 2008 ในปีนี้ คงต้องจับตามองบทบาทของ LeT ซึ่งพยายามที่จะยุแหย่ให้เกิดสงครามระหว่างอินเดียกับปากีสถาน
LeT มีเครือข่าย หรือ cell ทั่วโลก ทั้งในอเมริกา
ยุโรปและตะวันออกกลาง
-
AQIM: ซึ่ง ย่อมาจาก Al-Qaeda
in the Islamic Maghreb เป็นองค์กรสาขาของ Al-Qaeda ในแอฟริกาเหนือ และเป็นพันธมิตรกับกลุ่มหัวรุนแรงในประเทศมาลี (Mali) ชื่อ Ansar al Dine และขณะนี้ได้ยึดครองพื้นที่ 2
ใน 3 ของประเทศแล้ว AQIM ถูกสงสัยว่า อยู่เบื้องหลังการสังหารทูตสหรัฐฯในลิเบีย
นอกจากนี้ กลุ่มยังได้อาวุธจากการล่มสลายของรัฐบาล Gaddafi
ทำให้กลุ่มนี้อาจจะเป็นกลุ่มก่อการร้ายที่มีอาวุธมากที่สุด
-
AQAP: ซึ่งย่อมาจาก Al-Qaeda
in the Arabian Peninsula บทบาทและสมาชิกได้เพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว
ฐานที่มั่นสำคัญของ AQAP อยู่ในเยเมน และได้พยายามก่อวินาศกรรมในอเมริกามาแล้วสามครั้ง
แต่ไม่สำเร็จ รัฐบาลเยเมนก็อ่อนแอ AQAP
จึงได้ฉวยโอกาส ในการเพิ่มบทบาทขึ้นเป็นอย่างมาก
-
ซีเรีย: จากความวุ่นวายในซีเรีย ทำให้ Al-Qaeda กำลังมีบทบาทโดดเด่นมากขึ้น ผู้นำ
Al-Qaeda ได้เรียกร้องให้ผู้ก่อการร้ายหัวรุนแรงจากทั่วโลกเดินทางมาซีเรีย
ในสถานการณ์สงครามทางกลางเมือง กลุ่มก่อการร้ายได้ขยายตัว และ Al- Qaeda ก็กำลังจะใช้ซีเรียเป็นฐานในการก่อวินาศกรรมในประเทศเพื่อนบ้าน คือ
จอร์แดน ตุรกี อิรัก และเลบานอนด้วย อย่างไรก็ตาม จุดอันตรายของสถานการณ์การก่อการร้ายในซีเรียคือ
การที่อาวุธเคมีและอาวุธชีวภาพของรัฐบาล Assad อาจจะตกไปอยู่ในมือของกลุ่มก่อการร้าย
สำหรับสถานการณ์การก่อการร้ายในอัฟกานิสถานและปากีสถาน
ก็ยังคงน่าเป็นห่วง รัฐบาลสหรัฐฯประกาศจะถอนทหารออกจากอัฟกานิสถานภายในปี 2014
และมีแนวโน้มจะลดกำลังทหารลงในปีนี้ ประเด็นที่น่าเป็นห่วงคือ การที่ NATO จะลดกำลังลง ก็อาจจะทำให้นักรบตาลีบันเหิมเกริมมากขึ้น
ซึ่งจะทำให้สถานการณ์ในอัฟกานิสถานทรุดหนักลง เช่นเดียวกับในปากีสถาน ก็มีแนวโน้มว่า
สงครามจะลุกลามบานปลาย นักรบตาลีบันก็กำลังก่อความวุ่นวายมากขึ้น
·
เอเชียตะวันออก
สำหรับสถานการณ์ความมั่นคงโลกอีกเรื่อง
ที่ต้องจับตามองปีนี้ คือ กรณีพิพาทในภูมิภาคเอเชียตะวันออก โดยเฉพาะระหว่างจีนกับญี่ปุ่น
และจีนกับอาเซียนในกรณีความขัดแย้งในทะเลจีนใต้
ต้นตอของปัญหาคือ ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯกับจีน
สหรัฐฯกำลังวิตกกังวลว่า จีนจะผงาดขึ้นมาแข่งกับตนสหรัฐฯ
จึงมียุทธศาสตร์การปิดล้อมจีนทางทหาร และพยายามยุแหย่ให้ประเทศเพื่อนบ้านทะเลาะกับจีน
จึงทำให้เกิดกรณีพิพาทระหว่างจีนกับญี่ปุ่นในกรณีเกาะเซนกากุ หรือเกาะเตียวหยู
และกรณีพิพาทระหว่างจีนกับอาเซียนในทะเลจีนใต้ จีนไม่พอใจสหรัฐฯเป็นอย่างมาก
ที่สหรัฐฯได้ส่งกองกำลังทหารมาประจำการที่เมือง
Darwin ทางตอนเหนือออสเตรเลีย โดยมองว่า พันธมิตรทางทหารระหว่างสหรัฐฯกับออสเตรเลีย
เป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์การปิดล้อมจีน และจีนก็ไม่พอใจเป็นอย่างมาก ที่สหรัฐฯเข้ามาแทรกแซงในกรณีความขัดแย้งทะเลจีนใต้
โดยมองว่า สหรัฐฯต้องการให้จีนกับอาเซียนทะเลาะกัน
และต้องการโดดเดี่ยวและปิดล้อมจีน
ดังนั้น
จุดอันตรายที่สุดในภูมิภาคอาเซียนคือ สงครามที่อาจจะเกิดขึ้นในทะเลจีนใต้
โดยเฉพาะความขัดแย้งอาจลุกลามบานปลาย จนกลายเป็นสงครามใหญ่ หากสหรัฐฯเข้าแทรกแซง และเกิดความขัดแย้งทางทหารระหว่างสหรัฐฯกับจีน
นอกจากนี้
จุดอันตรายอีกจุดคือ ความขัดแย้งระหว่างจีนกับญี่ปุ่นในกรณีเกาะเซนกากุ หรือเกาะเตียวหยู
โดยจุดที่น่าห่วงคือ ขณะนี้ญี่ปุ่นได้มีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลใหม่โดยนายอาเบะ
นายกรัฐมนตรี มีแนวนโยบายต่างประเทศแบบแข็งกร้าวเป็นสายเหยี่ยว พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับจีน
ซึ่งอาจเป็นชนวนให้ความขัดแย้ง ลุกลามบานปลายได้ และเช่นเดียวกัน
ความขัดแย้งอาจกลายเป็นสงครามใหญ่ หากสหรัฐฯเข้าช่วยเหลือญี่ปุ่น และเกิดความขัดแย้งทางทหารกับจีน
(โปรดติดตามอ่านต่อ ตอนต่อไป
ซึ่งจะวิเคราะห์แนวโน้มสถานการณ์เศรษฐกิจโลก)