Follow prapat1909 on Twitter

วันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2557

ผลการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน ครั้งที่ 47 ที่เมียนมาร์

ตีพิมพ์หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ วันที่ 21 สิงหาคม 2557

               เมื่อวันที่ 8 สิงหาคมที่ผ่านมา ได้มีการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนครั้งล่าสุด ที่ เนปิดอว์ ประเทศเมียนมาร์ คอลัมน์กระบวนทรรศน์ในวันนี้ จะสรุปวิเคราะห์ผลการประชุมดังกล่าว ดังนี้
               อาเซียนหลัง 2015
               เรื่องสำคัญของการประชุมครั้งนี้คือ การเดินหน้าการจัดทำวิสัยทัศน์ของประชาคมอาเซียนหลัง 2015 โดยคณะมนตรีประสานงานอาเซียน (ASEAN Coordinating Council) ได้จัดตั้งคณะทำงาน เพื่อจัดทำวิสัยทัศน์ของประชาคมอาเซียนในช่วงหลังปี 2015 ผมดูจากเอกสารแถลงการณ์ร่วมผลการประชุมในครั้งนี้ พอจะเห็นลางๆว่า ประเด็นหลักของวิสัยทัศน์ของอาเซียนหลัง 2015 น่าจะมีประเด็นเหล่านี้
·      กฎบัตรอาเซียน 
เน้นถึงความสำคัญที่ต้องมีการแปลงกฎบัตรอาเซียนไปสู่การปฏิบัติ
·      ส่งเสริมหลักการอาเซียน
จะส่งเสริมหลักการ บรรทัดฐาน และค่านิยมของอาเซียน เพื่อให้เป็นบรรทัดฐานของภูมิภาคและระเบียบปฏิบัติที่ดี
·      ASEAN Centrality
ให้ความสำคัญต่อการส่งเสริมเอกภาพของอาเซียน ส่งเสริมผลประโยชน์ร่วมกัน เพื่อจะทำให้อาเซียนดำรงความเป็นศูนย์กลางของสถาปัตยกรรมในภูมิภาค โดยจะส่งเสริมท่าทีร่วมกันของอาเซียนในประเด็นปัญหาที่มีผลประโยชน์ร่วมกัน ทั้งนี้ ได้มีการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสอาเซียนสมัยพิเศษ เพื่อหารือในเรื่องดังกล่าว นอกจากนี้ ที่ประชุมให้ความสำคัญกับการยกระดับบทบาทของอาเซียนในเวทีระหว่างประเทศ ด้วยการปฏิบัติตาม Bali Concord III Plan of Action
·      การลดช่องว่างแห่งการพัฒนา
จะลดช่องว่างระหว่างประเทศสมาชิก ด้วยการปฏิบัติตามแผน Initiative for ASEAN Integration (IAI) และให้มีการพัฒนาแผนงานของ IAI ในยุคหลังปี 2015 ด้วย
·      เพิ่มประสิทธิภาพกลไกอาเซียน
ได้มีการจัดตั้งคณะทำงานระดับสูงหรือ High Level Task Force เพื่อศึกษาหามาตรการเพิ่มบทบาท สำนักงานเลขาธิการอาเซียน และทบทวนบทบาทของกลไกอาเซียนทั้งหมด
               แผนงานการจัดตั้งประชาคมอาเซียน
               อีกเรื่องที่เป็นเรื่องสำคัญของการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนในครั้งนี้คือ การติดตามความคืบหน้าในการจัดตั้งประชาคมอาเซียน
·      ประชาคมการเมืองและความมั่นคงอาเซียน
ที่ประชุมยินดีต่อความคืบหน้า ในการดำเนินการตามแผนงานการจัดตั้งประชาคมการเมืองและความมั่นคงอาเซียน หรือ APSC Blueprint และจะเพิ่มความพยายามในการบรรลุมาตรการต่างๆ ที่ยังทำไม่เสร็จภายใต้ APSC Blueprint
·      ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
ที่ประชุมยินดีที่ได้มีการปฏิบัติตามแผนงานการจัดตั้งประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC Blueprint เสร็จสิ้นไปถึงช่วงที่ 3 ของแผนงานแล้ว และขณะนี้อยู่ในช่วงที่ 4 ซึ่งเป็นช่วงสุดท้ายของแผนการจัดตั้ง AEC ในช่วงปี 2014-2015
สำหรับเรื่องที่น่าสนใจเป็นพิเศษสำหรับประเทศไทยคือ ความคืบหน้าในด้านโครงสร้างพื้นฐานของอาเซียน โดยเฉพาะการเชื่อมโยงการคมนาคมขนส่ง ขณะนี้ ได้มีการปฏิบัติตามแผน ASEAN Strategic Transport 2011-2015 โดยเฉพาะความคืบหน้าในโครงการสำคัญๆ ได้แก่ ASEAN Single Aviation Market ข้อตกลง Open Sky, ASEAN Single Shipping Market  เส้นทางรถไฟสายสิงคโปร์-คุนหมิง และ ASEAN Highway Network
·      ประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน
ที่ประชุมยินดีต่อความคืบหน้าตามแผนงานการจัดตั้งประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน หรือ ASCC Blueprint และหวังว่า จะได้มีการดำเนินงานตาม ASCC Blueprint อย่างครบถ้วนสมบูรณ์ เพื่อนำไปสู่การจัดตั้งประชาคมอาเซียน ที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลาง
ความสัมพันธ์อาเซียน-จีน
ในการประชุมในครั้งนี้ รัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนยังได้ประชุมกับรัฐมนตรีต่างประเทศของประเทศคู่เจรจา และประเทศมหาอำนาจต่างๆ อีกหลายกรอบ แต่ที่เป็นไฮไลท์คือ การประชุมระหว่างอาเซียนกับจีน ซึ่งขณะนี้ จีนกำลังผงาดขึ้นมาเป็นประเทศคู่ค้าอันดับหนึ่งของอาเซียน ทั้ง 2 ฝ่ายได้เน้นถึงความสำคัญของเขตการค้าเสรีอาเซียน-จีน ที่จะเป็นกลไกสำคัญ ที่จะทำให้การค้าระหว่างกัน เพิ่มขึ้นเป็น 5 แสนล้านเหรียญในปี 2015 และ 1 ล้านล้านเหรียญในปี 2020 และการลงทุนระหว่างกัน จะเพิ่มขึ้นเป็น 1 แสน 5 หมื่นล้านเหรียญในอีก  6 ปีข้างหน้า
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าอาเซียนกับจีนจะมีความใกล้ชิดกันทางเศรษฐกิจ แต่ทั้ง 2 ฝ่าย ก็มีความขัดแย้งกันโดยเฉพาะในปัญหาทะเลจีนใต้ เรื่องนี้จึงเป็นเรื่องใหญ่ระหว่างจีนกับอาเซียน รัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนได้แถลงว่า พัฒนาการในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ความตึงเครียดในทะเลจีนใต้เพิ่มมากขึ้น และอาเซียนตอกย้ำจุดยืนของอาเซียนในเรื่องดังกล่าว โดยรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนได้ออกแถลงการณ์ในเรื่องนี้ ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา
อาเซียนต้องการที่จะหารือกับจีน เพื่อนำไปสู่มาตรการและกลไก เพื่อการปฏิบัติตามปฏิญญาทะเลจีนใต้ หรือที่เรียกย่อว่า DOC และต้องการให้มีการเจรจา เพื่อนำไปสู่การจัดทำระเบียบปฏิบัติในทะเลจีนใต้ หรือ Code of Conduct in the South China Sea (COC)
บทวิเคราะห์
·      อาเซียนหลัง 2015
ผมมองว่า เรื่องสำคัญที่สุดของอาเซียนขณะนี้คือ การจัดทำวิสัยทัศน์ของประชาคมอาเซียนหลังปี 2015 ซึ่งขณะนี้ ยังไม่เป็นรูปเป็นร่าง แต่ที่พอจะเห็นเป็นเรื่องใหญ่ๆ คือ กฎบัตรอาเซียน การส่งเสริมหลักการอาเซียน ASEAN Centrality  การลดช่องว่างแห่งการพัฒนา และการเพิ่มประสิทธิภาพกลไกอาเซียน
สำหรับเรื่องกฎบัตรอาเซียนนั้น ผมขอเสนอว่า วิสัยทัศน์อาเซียนหลัง 2015 จะต้องทำให้กฎบัตรอาเซียน เป็นกฎบัตรของประชาชนอย่างแท้จริง โดยจะต้องมีการแก้กฎบัตรหลายมาตรา และต้องมีการเพิ่มมาตราให้มีการจัดตั้งกลไกของภาคประชาชน เพื่อเป็นช่องทางให้ประชาชน เข้ามามีส่วนร่วมในประชาคมอาเซียนอย่างเต็มที่ นอกจากนี้ อาจจะต้องมีการพิจารณาในระยะยาว ในเรื่องของการพัฒนากลไกฝ่ายนิติบัญญัติ และฝ่ายตุลาการของอาเซียนด้วย
สำหรับเรื่อง ASEAN Centrality นั้น ผมมองว่า เป็นเรื่องสำคัญมาก ในอนาคต ต้องมีการกำหนด ยุทธาสตร์และมาตรการ ที่จะทำให้อาเซียนเป็นศูนย์กลาง หรือเป็นแกนกลางของสถาปัตยกรรมในภูมิภาค โดยจะต้องมีมาตรการในการสร้างเอกภาพ และกำหนดท่าทีร่วมกันให้ได้ ที่ผ่านมา อาเซียนก็แตกแยก แตกสามัคคี และถูกแบ่งแยก และถูกปกครองมาโดยตลอด ท่าทีอาเซียนในเวทีระหว่างประเทศก็แทบจะไม่มีให้เห็นเลย


·      แผนงานการจัดตั้งประชาคมอาเซียน
สำหรับในเรื่องของการจัดตั้งประชาคมอาเซียนนั้น ตามแผน จะต้องจัดตั้งให้เสร็จสมบูรณ์ภายในวันที่ 31 ธันวาคมปีหน้า และแม้ว่าในแถลงการณ์ร่วมของรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน จะได้กล่าวไว้อย่างสวยหรูว่า ได้มีความคืบหน้าไปมากในการจัดตั้งประชาคมอาเซียน แต่ผมกลับมองว่า ในความเป็นจริงแล้ว ไม่ได้เป็นเช่นนั้น การจัดตั้งประชาคมอาเซียนยังไม่เสร็จ และมีเรื่องที่จะต้องทำต่ออีกมากหลังปี 2015
ประชาคมการเมืองและความมั่นคง หรือ APSC การส่งเสริมสิทธิมนุษยชนยังไปไม่ถึงไหน AICHR ยังไม่มีประสิทธิภาพ จึงจำเป็นอย่างยิ่ง ที่จะต้องมีการแก้ TOR ของ AICHR ใหม่ นอกจากนี้ กลไกแก้ไขความขัดแย้งของอาเซียนยังไม่เป็นรูปเป็นร่าง และไม่มีประสิทธิภาพ ความร่วมมือในการจัดการกับปัญหาความมั่นคงในรูปแบบใหม่ยังเบาบางมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการค้ามนุษย์ ยาเสพติด และภัยพิบัติ ปัญหากรณีพิพาทเรื่องพรมแดนยังมีอยู่ และความร่วมมือทางทหารก็ยังเบาบางมากเช่นกัน
สำหรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนนั้น ในความเป็นจริงแล้ว ยังมีปัญหาอีกมาก และ AEC ยังไม่ใช่ตลาดและฐานการผลิตเดียว การเปิดเสรี 5 ด้านยังไม่สมบูรณ์ AEC ยังมีปัญหาการบูรณาการในเชิงลึกและในเชิงกว้าง ช่องว่างระหว่างประเทศรวยกับประเทศจน ยังเป็นอุปสรรคสำคัญ และประเทศสมาชิกยังคงมองประเทศสมาชิกอื่นว่า เป็นคู่แข่งทางเศรษฐกิจ แทนที่จะมองว่า เป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจ
สำหรับการพัฒนาเชื่อมโยงโครงสร้างพื้นฐานของอาเซียนนั้น ส่วนใหญ่ก็มีแค่แผน โดยเฉพาะแผนการสร้างถนน สร้างทางรถไฟ ซึ่งอุปสรรคสำคัญคือ การขาดเงินทุน ที่จะมาลงทุนสร้างโครงสร้างพื้นฐานเหล่านี้
สำหรับประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน ก็เหมือนกัน ในความเป็นจริงยังมีอุปสรรคอยู่มาก และยังห่างไกลจากความสำเร็จ โดยเฉพาะในเรื่องของความร่วมมือในด้านต่างๆ คือ ในด้านการศึกษา สวัสดิการและสิทธิทางสังคม และเรื่องสิ่งแวดล้อม ซึ่งอาเซียนมีความร่วมมือในเรื่องเหล่านี้ที่เบาบางมาก เรื่องใหญ่คือ การขาดเงินทุน
และเรื่องการสร้างอัตลักษณ์อาเซียนนั้น ในปี 2015 ก็ยังคงจะไม่ประสบความสำเร็จ คน 600 ล้านคนในอาเซียน ยังห่างไกลกับการที่จะมีอัตลักษณ์ร่วมกัน ยังห่างไกลกับความรู้สึกที่มองว่า เรา 600 ล้านคน เป็นพวกเดียวกัน
และสุดท้ายก็คือ ประชาคมอาเซียนยังห่างไกล กับการที่จะมีประชาชนเป็นศูนย์กลางของประชาคมอย่างแท้จริง