การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ปี 2012 : ผลกระทบต่อไทย (ตอนที่ 1)
คอลัมน์กระบวนทรรศน์ในวันนี้
จะวิเคราะห์การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ซึ่งจะมีขึ้นในปลายปีนี้
โดยเฉพาะจะวิเคราะห์ว่า Obama และ
Romney ผู้สมัครทั้ง 2 คน จะมีแนวนโยบายต่างประเทศอย่างไร
และจะกระทบต่อโลก ต่อภูมิภาคและต่อไทยอย่างไร
ก่อนอื่นเราจะต้องเข้าใจว่า พรรค Democrat และ พรรค Republican มีอุดมการณ์
การมองโลกต่างกัน มีแนวนโยบายเศรษฐกิจและแนวนโยบายต่างประเทศต่างกัน
ทั้งนี้เพราะอุดมการณ์ต่างกัน
ในอเมริกา
จะมีอุดมการณ์ที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน คือ อนุรักษ์นิยมกับเสรีนิยม เสรีนิยม หรือ
Liberalism นั้น เป็นอุดมการณ์ของพรรค Democrat ส่วนอนุรักษ์นิยม หรือ Conservatism เป็นนโยบายของพรรค
Republican
Bush
George Bush อยู่ในตำแหน่ง 8 ปี ตั้งแต่ปี 2001-2008
เกิดอะไรขึ้นบ้างในโลก
Bush มีอุดมการณ์ที่เราเรียกว่า อนุรักษ์นิยมใหม่ หรือ Neo-Conservative
ซึ่งพวกนี้จะมองโลกในแง่ร้าย เป็นพวกสายเหยี่ยว
ต้องการใช้กำลังทางทหารในการแก้ปัญหาของโลก และมองว่าอเมริกาจะต้องยิ่งใหญ่
อเมริกาจะต้องครองโลก อเมริกาจะต้องบุกเดี่ยวลุยเดี่ยว ไม่ต้องสนใจใครทั้งนั้น
อเมริกาจะต้องยิ่งใหญ่คนเดียว
พอเกิดเหตุการณ์
11 กันยายน 2001 Bush จึงบุกแหลก
ลุยแหลก บุกยืดอัฟกานิสถานในปี 2001 บุกยืดอิรักในปี 2003
และไม่ฟังเสียงใครทั้งนั้น แม้ว่าจะไม่มีไฟเขียวจาก UN ก็จะบุก
ไม่สนใจใคร เพราะอเมริกามีอำนาจ จะทำอะไรก็ได้ในโลกนี้ นี่คือความเชื่อของพรรค Republican ความเชื่อของ Bush ในตอนนั้น
เพราะฉะนั้น
ในช่วงนั้น โลกก็ปั่นป่วน เข้าสู่ยุคสงครามต่อต้านการก่อการร้าย 8
ปีที่เราอยู่ในโลกของความปั่นป่วน โลกของความขัดแย้ง Bush ประกาศอักษะแห่งความชั่วร้าย ซึ่งประกอบด้วย อิรัก
อิหร่านและเกาหลีเหนือ และ Bush ก็ประกาศจะจัดการกับอักษะแห่งความชั่วร้าย
และได้จัดการกับอิรักไปแล้ว ต่อไปก็จะจัดการอิหร่านและเกาหลีเหนือ
แต่เวลาหมดเสียก่อน
ก่อนเหตุการณ์
11 กันยาฯ ภาคใต้ไม่มีปัญหา เราอยู่กันอย่างสงบ แต่หลังจากเหตุการณ์ 11
กันยาฯหลังจากที่ Bush ดำเนินนโยบายต่างประเทศในลักษณะก้าวร้าว
บุกแหลก ลุยแหลก ก็ได้สร้างความปั่นป่วนให้เกิดขึ้น และก็เกิดปัญหาภาคใต้
ปัญหาการก่อการร้ายก็เกิดขึ้นทั่วโลก อเมริกาสูญเสียความเป็นผู้นำ
อเมริกาเสียชื่อมาก โดยเฉพาะในการบุกอิรัก ซึ่งถูกมองว่า
เป็นสงครามที่ไม่มีความชอบธรรม อเมริกาถูกมองว่าเป็นผู้ใหญ่รังแกเด็ก Bush อ้างว่า Saddam Hussein สะสมอาวุธ
และสนับสนุนการก่อการร้าย แต่ก็ไม่พบหลักฐาน
Obama
เพราะฉะนั้น 8 ปีในยุคนั้นถือว่า
อเมริกาเสียชื่อมาก และสร้างความปั่นป่วนให้เกิดขึ้นกับโลก ในขณะนั้นเอง Obama ก็ผงาดขึ้นมา
และกลายเป็นตัวเลือกใหม่ของชาวอเมริกัน ในการเลือกตั้งปลายปี 2008 Obama สัญญาว่า จะเปลี่ยนโลกใหม่และปฏิรูปนโยบายต่างประเทศใหม่
จะนำอเมริกากลับมาสู่ประชาคมโลก จะทำให้โลกกลับมาเชื่อมั่นในอเมริกาอีกครั้งหนึ่ง Obama
ต่อต้านนโยบายของ Bush ในทุกๆเรื่อง Obama
มีอุดมการณ์เป็นเสรีนิยม เป็นสายพิราบเปรียบเทียบกับ Bush ที่เป็นสายเหยี่ยว
เพราะฉะนั้น เมื่อ Obama ได้มาเป็นประธานาธิบดีใหม่ เขาก็สัญญากับโลกว่า
เขาจะเปลี่ยนแปลงโลก ประกาศนโยบายต่อ UN ในเดือนกันยายน 2009
ว่า จะเปลี่ยนโลกใหม่ อเมริกาจะเปลี่ยนนโยบายใหม่ ประกาศนโยบายกับโลกมุสลิมว่า
อเมริกาจะปฎิสัมพันธ์ ฟื้นฟูความสัมพันธ์ใหม่กับโลกมุสลิม
อเมริกาจะยื่นดอกไม้ให้กับอิหร่าน ยินดีจะเจรจากับอิหร่าน
ยื่นดอกไม้ให้กับเกาหลีเหนือ พร้อมจะเจรจากับเกาหลีเหนือ Obama ประกาศว่า พร้อมจะกลับมาปฎิสัมพันธ์กับโลก
โดยประกาศว่า จะกลับมาแก้ไขปัญหาภาวะโลกร้อนร่วมกับชาวโลกอีกครั้งหนึ่ง
และประกาศว่า จะปฎิสัมพันธ์กับจีนและรัสเซีย จะเริ่มกันใหม่
ในความสัมพันธ์กับมหาอำนาจ
อย่างไรก็ตาม
3 ปี ผ่านไป ถามว่า Obama ประสบความสำเร็จอะไรบ้าง
ผมประเมินว่า Obama ล้มเหลว และจุดนี้เอง ทำให้ Romney ฉวยโอกาสโจมตีนโยบายต่างประเทศของ Obama
ว่าล้มเหลว
การปฏิสัมพันธ์กับโลกมุสลิมล้มเหลว ปัญหาการก่อการร้ายก็แก้ไม่ได้
ปัญหาอิหร่านก็แก้ไม่ได้ การคืนดีกับจีนและรัสเซียก็ไม่สำเร็จ
การแก้ปัญหาเกาหลีเหนือที่พัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ก็ไม่สำเร็จ
การกอบกู้วิกฤตเศรษฐกิจโลก กอบกู้วิกฤต Eurozone
และการแก้ปัญหาภาวะโลกร้อน ก็ไม่ประสบความสำเร็จ ถือเป็น 3 ปีที่ล้มเหลว Obama
ขายฝันไว้เยอะ แต่ในที่สุด Obama ก็ไม่สามารถสานฝันให้เป็นจริงได้
อย่างไรก็ตาม
แม้ว่า Obama จะล้มเหลว แต่หาก Romney ได้เป็นประธานาธิบดีจะมีอะไรดีขึ้นไหม
สำหรับโลกใบนี้
Romney
Romney เป็นตัวแทนพรรค Republican
ขณะนี้ก็กำลังหาเสียงเลือกตั้งอยู่ และกำลังโจมตีรัฐบาลObama อย่างหนักว่า ล้มเหลวในการดำเนินนโยบายต่างประเทศ แนวคิดของ Romney
ก็คล้ายๆกับของ Bush
Romney
มองโลกอย่างไร Romney บอกว่า
-
อิหร่านกำลังพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์
ซึ่งคุกคามประเทศเพื่อนบ้าน จะครอบงำแหล่งน้ำมันใหญ่ของโลก และจะควบคุมช่องแคบ Hormuz
-
อัฟกานิสถาน หลังจากนาโต้ถอนทหาร นักรบตาลีบัน
จะกลับคืนสู่อำนาจอีก อัฟกานิสถานจะกลับมาเป็นแหล่งซ่องสุมของขบวนการก่อการร้าย
-
ปากีสถาน ซึ่งมีอาวุธนิวเคลียร์กว่า 100 ลูก จะตกอยู่ในมือของกลุ่มก่อการร้ายมุสลิมหัวรุนแรง
-
จีนมีเจตจำนงชัดเจน ที่จะผงาดขึ้นมาเป็นอภิมหาอำนาจทางเศรษฐกิจและทางทหาร
และอำนาจของจีนจะคุกคามประเทศเพื่อนบ้าน และจะผลักดันกองกำลังทหารของอเมริกาให้ออกไปจากภาคพื้นเอเชีย-แปซิฟิก
จีนจะสร้างแนวร่วมของประเทศเผด็จการทั่วโลก
-
Putin จะทำให้รัสเซียกลับมาเป็นเหมือนอดีตสหภาพโซเวียต
โดยจะข่มขู่ประเทศเพื่อนบ้าน จะทำลายระบบเศรษฐกิจของยุโรป ด้วยการตัดเส้นทางพลังงานจากรัสเซียไปยุโรป
Romney บอกว่า สภาวะแวดล้อมโลกดังกล่าว เป็นภัยคุกคามต่อสหรัฐ
เป็นอันตรายที่อเมริกากำลังประสบ โดยเฉพาะอันตรายดังกล่าว จะเป็นจริงมากขึ้น
หากสหรัฐยังคงเดินหน้าตามนโยบายที่ผิดพลาดของObama ในช่วง 3
ปีที่ผ่านมา เพราะฉะนั้น Romney จึงเสนอวิสัยทัศน์ใหม่ ที่บอกว่า
ศตวรรษที่ 21 จะเป็นศตวรรษแห่งอเมริกา (American Century) อีกครั้งหนึ่ง
โดยอเมริกาจะมีระบบเศรษฐกิจและกองกำลังทหารที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก
อเมริกาจะกลับมาเป็นผู้นำโลกเสรี หากเขาได้เป็นประธานาธิบดี เขาจะทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่าง
เพื่อทำให้ศตวรรษนี้เป็นศตวรรษของอเมริกา และเขาจะไม่ยอมกล่าวขอโทษต่อชาวโลก อย่างที่
Obama ได้ทำมาโดยตลอด โดย Romney กล่าวว่า
ยุทธศาสตร์ของเขา คือ การทำให้อเมริกาเข้มแข็ง ซึ่งความเข้มแข็งของอเมริกาจะมาจากเศรษฐกิจที่เข้มแข็ง
กองกำลังที่แข็งแกร่ง และค่านิยมอันสูงส่งของอเมริกา 3 ปีที่ผ่านมา Obama ทำให้ความแข็งแกร่งของอเมริกาลดน้อยถอยลงไปในทุกๆด้าน เพราะฉะนั้น Romney จึงประกาศกร้าวว่า ในวันแรกที่เขาเป็นประธานาธิบดี
เขาจะสร้างเศรษฐกิจอเมริกาให้กลับมาแข็งแกร่งอีกครั้งหนึ่ง และจะปรับนโยบายส่วนทางกับ
Obama ที่ปรับลดงบประมาณทางทหารลงไปเป็นอย่างมาก โดย Romney
จะเพิ่มงบประมาณทางทหารและทำให้อเมริกากลับมาแข็งแกร่งอีกครั้งหนึ่ง
(โปรดอ่านต่อตอนที่
2 ในคอลัมน์กระบวนทรรศน์ ฉบับวันที่ 18 ตุลาคม 2555)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น