วันอาทิตย์ที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2555
ภัยคุกคามโลก ปี 2012
ภัยคุกคามโลก ปี 2012
ตีพิมพ์ใน ไทยโพสต์ ฉบับวันพฤหัสบดีที่ 9 กุมภาพันธ์ 2555
ในช่วงต้นปีของทุกปี สภาข่าวกรองแห่งชาติของสหรัฐฯ จะทำรายงานประเมินสถานการณ์ภัยคุกคามต่อสหรัฐฯ เสนอต่อสภาคองเกรส ซึ่งเอกสารดังกล่าว เรียกเป็นภาษาอังกฤษว่า Worldwide Threat Assessment คอลัมน์กระบวนทรรศน์ในวันนี้ จะสรุป วิเคราะห์ เอกสารดังกล่าว ดังนี้
การก่อการร้าย
ในสายตาของหน่วยงานข่าวกรองสหรัฐฯ มองว่า ภัยคุกคามอันดับ 1 คือ การก่อการร้ายสากล ภัยคุกคามอันดับ 2 คือ การแพร่ขยายของอาวุธร้ายแรง และภัยคุกคามอันดับ 3 คือ ภัยคุกคามทางอินเตอร์เนต โดยในสถานการณ์ปัจจุบัน สหรัฐฯไม่ได้เผชิญกับภัยคุกคามเพียงมิติเดียวเหมือนกับในสมัยสงครามเย็น แต่สหรัฐฯกำลังเผชิญกับภัยคุกคามในรูปแบบใหม่ ที่มีลักษณะหลายมิติ เชื่อมโยงกัน และมีหลายตัวแสดง
สำหรับในเรื่องภัยคุกคามจากการก่อการร้ายนั้น หน่วยงานข่าวกรองสหรัฐฯมองว่า ในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า จะเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านครั้งสำคัญ สำหรับภัยคุกคามจากการก่อการร้าย โดยเฉพาะจากกลุ่ม al-Qaeda โดยคาดการณ์ว่า ผู้นำของขบวนการจะมีการกระจายตัว โดยแกนกลางของ al-Qaeda จะลดบทบาทความสำคัญลง ซึ่งในที่สุด จะนำไปสู่การแตกสลายของขบวนการ ทำให้ในอนาคต al-Qaeda จะมีความสำคัญในเชิงสัญลักษณ์เท่านั้น โดยจะมีองค์กรในระดับภูมิภาคร่วมอุดมการณ์ที่จะผลักดันสงครามศาสนาในระดับโลก หรือ global jihad ต่อ
สำหรับการโจมตีจากขบวนการก่อการร้ายโดยการใช้อาวุธร้ายแรงนั้น ไม่น่าจะเกิดขึ้นในปีนี้ อย่างไรก็ตาม หน่วยงานข่าวกรองสหรัฐฯยังคงเป็นห่วง โดยถึงแม้จะไม่มีการโจมตีที่จะมีการสูญเสียครั้งใหญ่ แต่อาจจะมีการโจมตีโดยการใช้อาวุธร้ายแรงในระดับย่อยๆ
นอกจากนี้ แกนกลางของ al-Qaeda กำลังเสื่อมลง โดยเฉพาะการเสียชีวิตของ Bin Laden ทำให้ขบวนการขาดผู้นำ และผู้นำคนใหม่ คือ Ayman al-Zawahiri ก็ไม่มีบารมีเท่ากับ Bin Laden นอกจากนี้ ได้มีการจับกุมและสังหารผู้นำ al-Qaeda เป็นจำนวนมาก ทำให้องค์กร al-Qaeda อ่อนแอลงไปมาก
อย่างไรก็ตาม องค์กร al-Qaeda ในระดับภูมิภาคจะมีบทบาทมากขึ้น ที่สำคัญ คือ al-Qaeda in the Arabian Peninsula (AQAP), al-Qaeda in Iraq (AQI), al-Qaeda in the Islamic Maghreb (AQIM) และ al-Shabaab โดยกลุ่ม AQAP จะมีบทบาทมากที่สุดในการผลักดัน global jihad ต่อ แต่กลุ่ม AQI จะเน้นการก่อวินาศกรรมในอิรัก เพื่อโค่นล้มรัฐบาลชีอะห์ ส่วน AQIM และ al-Shabaab จะเน้นการก่อวินาศกรรมในระดับท้องถิ่นมากกว่าการทำ global jihad
สำหรับในตะวันตก โดยเฉพาะในสหรัฐฯ การก่อวินาศกรรมน่าจะมาจากผู้ก่อการร้ายที่อาศัยอยู่ในสหรัฐฯ ซึ่งเรียกว่า home-grown terrorist โดยอาจจะเป็นการปฏิบัติการเพียงคนเดียว หรือกลุ่มเล็กๆ ที่มีอุดมการณ์ร่วมกับ al-Qaeda แต่ไม่ได้มีความสัมพันธ์อย่างเป็นทางการ หรือได้รับคำสั่งโดยตรงจาก al-Qaeda
การแพร่ขยายของอาวุธร้ายแรง
อีกเรื่องหนึ่งที่จะเป็นภัยคุกคามโลก คือ การแพร่ขยายของอาวุธร้ายแรง โดยเฉพาะอาวุธนิวเคลียร์ จะยังคงมีประเทศที่ยังคงเดินหน้าพัฒนาอาวุธร้ายแรงต่อไป ซึ่งถือเป็นภัยคุกคามสำคัญ เรื่องสำคัญ คือ การแพร่ขยายของอาวุธนิวเคลียร์ รวมถึงการแพร่ขยายของวัตถุดิบและเทคโนโลยี ซึ่งสามารถนำมาพัฒนาอาวุธร้ายแรง โดยเฉพาะอาวุธเคมีและอาวุธชีวภาพได้
ประเทศสำคัญที่ถูกมองว่าเป็นภัยคุกคาม คือ อิหร่านและเกาหลีเหนือ โดยอิหร่านยังคงเดินหน้าพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ต่อ โดยเฉพาะการพัฒนาโรงงานพลังงานนิวเคลียร์ เพื่อทำให้อิหร่านสามารถพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ได้ อิหร่านได้เดินหน้าเพิ่มสมรรถนะภาพแร่ยูเรเนียม ซึ่งสามารถนำมาใช้ผลิตอาวุธนิวเคลียร์ได้
สำหรับอีกประเทศ คือ เกาหลีเหนือ ซึ่งมีการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์และขีปนาวุธ ถือเป็นภัยคุกคามต่อภูมิภาคเอเชียตะวันออก ในอดีต เกาหลีเหนือได้ส่งออกขีปนาวุธให้กับหลายประเทศ อาทิ อิหร่านและซีเรีย และได้ช่วยเหลือซีเรียในการพัฒนาโรงงานนิวเคลียร์ เกาหลีเหนือได้ทดลองอาวุธนิวเคลียร์มาแล้ว 2 ครั้ง ครั้งแรกในปี 2006 และครั้งที่ 2 ในปี 2009 ต่อมาในปี 2010 เกาหลีเหนือได้เปิดเผยโรงงานเพิ่มสมรรถนะภาพแร่ยูเรเนียมให้กับคณะของสหรัฐฯที่เดินทางมาเยือนศูนย์วิจัยด้านนิวเคลียร์ที่เมือง Yongbyon
เกาหลีเหนือมองว่า อาวุธนิวเคลียร์จะเป็นการป้องปรามการโจมตีจากสหรัฐฯ และเป็นการเพิ่มสถานะของประเทศ และใช้เป็นเครื่องมือทางการทูต ในการกดดันให้สหรัฐฯยอมอ่อนข้อให้กับเกาหลีเหนือ แต่เกาหลีเหนือคงจะไม่ใช้อาวุธนิวเคลียร์ต่อสหรัฐฯ ยกเว้นในกรณีที่รัฐบาลเกาหลีเหนือกำลังจะประสบความพ่ายแพ้ทางทหารเท่านั้น
ภัยคุกคามทางอินเตอร์เนต
นอกจากนี้ ภัยคุกคามต่อโลกในรูปแบบใหม่ คือ ภัยคุกคามทางอินเตอร์เนต ทั้งนี้ ก็เพราะความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ทำให้รัฐบาลของประเทศต่างๆต้องพึ่งพาอินเตอร์เนตเป็นอย่างมาก แนวโน้มก็คือ ได้มีการก่อวินาศกรรมทางอินเตอร์เนตมากขึ้นเรื่อยๆ โดยประเทศที่สหรัฐฯจับตามองมากเป็นพิเศษ คือ จีนและรัสเซีย โดยสหรัฐฯกล่าวหาว่า แฮคเกอร์จากจีนและรัสเซีย ได้เข้ามาแฮคเครือข่ายคอมพิวเตอร์ของสหรัฐฯ และขโมยข้อมูลไปเป็นจำนวนมาก
ขณะนี้ โลกกำลังประสบกับสภาวะแวดล้อมที่เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงไปเร็วมาก จนรัฐบาลตามไม่ทัน ในช่วงปีที่แล้ว ได้มีการแฮคข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ หรือ NASDAQ และได้มีการแฮคข้อมูลจากเครือข่ายคอมพิวเตอร์ของ IMF ด้วย ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเปราะบางของเศรษฐกิจโลกต่อภัยคุกคามในรูปแบบใหม่นี้
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น