Follow prapat1909 on Twitter

วันอาทิตย์ที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2555

Global Risks 2012

Global Risks 2012 คอลัมน์โลกปริทรรศน์ 5 กุมภาพันธ์ 2555 การประชุม World Economic Forum ในช่วงสัปดาห์ที่แล้ว ได้มีการเผยแพร่รายงาน “Global Risks 2012” ซึ่งเป็นการประเมินสถานการณ์โลกในปี 2012 โดยเน้นความเสี่ยงสำคัญๆของโลก ซึ่งมีอยู่ 50 เรื่อง คอลัมน์โลกปริทรรศน์ในวันนี้ จะสรุป วิเคราะห์ รายงานดังกล่าว ดังนี้ เกริ่นนำ ในคำนำของรายงานดังกล่าว Klaus Schwab ผู้ก่อตั้งและประธาน World Economic Forum ได้กล่าวนำว่า ในทศวรรษหน้า วิถีชีวิตของมนุษย์ จะได้รับอิทธิพลจากพลังแห่งการเปลี่ยนแปลง ซึ่งรวมถึงการเปลี่ยนแปลงทางด้านเศรษฐกิจ ด้านสิ่งแวดล้อม ด้านภูมิรัฐศาสตร์ ด้านสังคม และด้านเทคโนโลยี สัญญาณได้ชี้ชัดว่า กำลังมีการเปลี่ยนแปลงดุลยภาพครั้งใหญ่ของเศรษฐกิจโลก ประชากรโลกเพิ่มขึ้นเป็น 7,000 ล้านคน พร้อมกับการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและสิ่งแวดล้อมที่เชื่อมโยงกัน การเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ซึ่งมีความยุ่งยากสลับซับซ้อน กำลังเป็นภัยคุกคามต่อมวลมนุษยชาติ เราจึงจำเป็นต้องพัฒนาตัวแบบ แนวคิดใหม่ๆ เพื่อเผชิญกับสิ่งท้าทายดังกล่าว ดังนั้น รายงานฉบับนี้ ซึ่งมีชื่อว่า “Global Risks 2012” ได้วิเคราะห์ปัญหาความเสี่ยงของโลก 50 เรื่องโดยมุ่งเป้าเพื่อที่จะปรับปรุงความพยายาม ทั้งของภาครัฐและเอกชน ที่จะเข้าใจ ติดตาม และลดความเสี่ยงดังกล่าวของโลก รายงานดังกล่าว ได้เรียกร้องให้ประชาคมโลกร่วมมือกันในการแก้ปัญหาของโลก นอกจากนี้ Lee Howell แห่ง Risk Response Network ซึ่งเป็นหน่วยงานในการจัดทำรายงานฉบับนี้ ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า รายงานฉบับนี้ เป็นการสำรวจความเสี่ยงของโลก 50 เรื่อง ใน 5 มิติ ได้แก่ มิติทางด้านเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม ภูมิรัฐศาสตร์ สังคม และเทคโนโลยี โดยได้มีการสำรวจความคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญกว่า 469 คนทั่วโลก ซึ่งมีทั้งนักธุรกิจอุตสาหกรรม ข้าราชการ นักวิชาการ และภาคประชาสังคม แบบสำรวจได้เน้นศึกษาความเป็นไปได้ของความเสี่ยงต่างๆ ในห้วงเวลา 10 ปี และรวมถึงการเน้นสำรวจความรุนแรงและผลกระทบของความเสี่ยงดังกล่าว Global Risks การสำรวจดังกล่าว ได้พิจารณาถึงความเสี่ยง 50 เรื่อง และจัดลำดับความสำคัญของความเสี่ยง ดังนี้ ปัญหาหรือความเสี่ยงที่มีความเป็นไปได้มากที่สุด 5 เรื่อง คือ 1. ช่องว่างระหว่างคนรวย-คนจน 2. ความไม่สมดุลของระบบการเงินโลก 3. การเพิ่มขึ้นของก๊าซเรือนกระจก 4. ภัยคุกคามทางอินเตอร์เนต 5. วิกฤตการขาดแคลนน้ำ สำหรับปัญหาหรือความเสี่ยงที่จะมีผลกระทบต่อโลกมากที่สุด 5 เรื่อง คือ 1. ความล้มเหลวของระบบการเงินโลก 2. วิกฤตการขาดแคลนน้ำ 3. วิกฤตการขาดแคลนอาหาร 4. ความไม่สมดุลของระบบการเงิน การคลัง 5. วิกฤตด้านราคาพลังงานและสินค้าเกษตร ศูนย์กลางแรงโน้มถ่วง รายงานฉบับนี้ ได้นำเสนอแนวคิดเรื่อง ศูนย์กลางแรงโน้มถ่วง หรือ Centres of Gravity ซึ่งหมายถึงความเสี่ยงหรือปัญหาของโลก ที่มีความสำคัญสูงสุดต่อระบบโลก โดยมีศูนย์กลางแรงโน้มถ่วง 5 ศูนย์ด้วยกัน ใน 5 มิติ คือ 1. ในมิติด้านเศรษฐกิจ ศูนย์กลางแรงโน้มถ่วง คือ การไร้ดุลยภาพของระบบการเงินโลก 2. ในมิติด้านสิ่งแวดล้อม ศูนย์กลางแรงโน้มถ่วง คือ ก๊าซเรือนกระจก 3. ในมิติด้านภูมิรัฐศาสตร์ ศูนย์กลางแรงโน้มถ่วง คือ ความล้มเหลวของกลไกจัดการปัญหาโลก 4. ในมิติด้านสังคม ศูนย์กลางแรงโน้มถ่วง คือ การเพิ่มขึ้นของประชากรโลก 5. ในมิติด้านเทคโนโลยี ศูนย์กลางแรงโน้มถ่วง คือ ความล้มเหลวของระบบเทคโนโลยีโลก โลกแห่งความสับสนวุ่นวาย (Dystopia) รายงานดังกล่าว ได้เน้นว่า โลกกำลังจะเข้าสู่ยุคแห่งความสับสนวุ่นวาย หรือที่เรียกในภาษาอังกฤษว่า Dystopia ซึ่งเป็นคำตรงข้ามกับคำว่า Utopia รายงานได้วิเคราะห์ความเชื่อมโยงของความเสี่ยงและปัญหาของโลก ที่เผยให้เห็นความเสี่ยงทางด้านการเงิน ด้านประชากร และด้านสังคม ที่เป็นสัญญาณของการเข้าสู่โลกแห่ง Dystopia โดยจะมีปัญหาในเรื่องประชากร โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ที่จะประสบปัญหาการว่างงาน ในขณะที่โลกจะมีสัดส่วนของประชากรที่เป็นผู้สูงวัยมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งจะเป็นภาระอันยิ่งใหญ่ของรัฐบาลที่จะต้องจัดการในเรื่องของสวัสดิการให้แก่คนเหล่านี้ และผลที่ตามมา คือ จะทำให้รัฐบาลประสบกับภาวะหนี้สินมากขึ้น นอกจากนี้ ประชากรโลกจะประสบกับปัญหาช่องว่างทางรายได้ ระหว่างคนรวยกับคนจน ซึ่งจะเป็นภัยคุกคามต่อเสถียรภาพทางการเมืองและสังคม และในที่สุด จะส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจโลกโดยรวม นำไปสู่ยุคสมัยของการปกป้องทางการค้า ลัทธิชาตินิยม และลัทธิประชานิยม การไร้ประสิทธิภาพของกลไกโลก ในขณะที่โลกมีความสลับซับซ้อน และมีการพึ่งพาอาศัยกันมากขึ้น แต่กลไกโลกที่จะจัดการกับระบบ กลับไร้ประสิทธิภาพมากขึ้นเรื่อยๆ ความเสี่ยงและปัญหาของโลกจะเพิ่มมากขึ้น และจะท้าทายกลไกการจัดการของโลก ทั้งมิติทางด้านเทคโนโลยี การพึ่งพาอาศัยกันทางการเงิน การลดลงของทรัพยากร และปัญหาภาวะโลกร้อน กลไกโลกในปัจจุบันและในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นนโยบาย บรรทัดฐาน กฎ ระเบียบ และสถาบัน จะไร้ประสิทธิภาพมากขึ้น ภัยคุกคามในอินเตอร์เนต อีกเรื่องที่รายงานฉบับนี้ให้ความสำคัญเป็นพิเศษ คือ ด้านมืดของอินเตอร์เนต ในอนาคต มีแนวโน้มที่จะมีอาชญากรรม การก่อการร้าย และสงคราม ในโลกอินเตอร์เนต ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบไม่น้อยไปกว่า อาชญากรรม การก่อการร้าย และสงครามในโลกนอกอินเตอร์เนต ในขณะนี้ มีจำนวนโทรศัพท์มือถือกว่า 5,000 ล้านเครื่อง ดังนั้น วิถีชีวิตของมนุษย์จะเปราะบางมากต่อภัยคุกคามในรูปแบบใหม่ คือ ภัยคุกคามในโลกอินเตอร์เนต หรือ cyber threat โลกในอนาคต พรมแดนจะมีความหมายลดลง อำนาจจะเปลี่ยนผ่านจากโลกที่ไม่ใช่อินเตอร์เนตไปสู่โลกอินเตอร์เนต คือ เปลี่ยนจาก physical world ไปสู่ virtual world

ไม่มีความคิดเห็น: